วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ครั้งบ้านที่ชำรุดเสียหายแต่ฉากถ่ายรูปขาวยังอยู่เหมือนเดิม

ครั้งบ้านที่ชำรุดเสียหายก็มีรถสวยมาจอดอยู่ที่สนาม นี่คงจะเป็นที่แห่งเดียวในโลกตะวันตก ที่รถของผู้คนนั้นมีค่ามากกว่าบ้านของพวกเขาในที่สุดเราก็พบป้ายแผ่นหนึ่งที่บอกให้เรากลับไปที่ไฮเวย์
เราขับตามถนนไปจนถึงเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งที่มืร้านอาหารทำด้วยอิฐ ลานจอดรถของร้านมีพวกรถปีกอัพล้อใหญ่ยักษ์และรถเกงฃึ้นสนิมจอดอยู่เท่าที่ผมพอมองเห็นผ่านกระจกบานใหญ่ ตู้ไฟถ่ายรูป
หน้าร้าน คือหมวกเบสบอลเป็นแพที่ผลุบๆโผล่ๆ อยู่ โอ้ว ไม่นะ ผมคิด ถ้าใครลักคนในนี้รู้ว่าผมเป็นชาวอังกฤษที่สวมกระโปรงคนนั้นละก็ ผมตายแน่การตกแต่งภายในคงจะถูกกว้านชื้อโดยสถาบันคิลปะของ
ฝรั่งเศสลักแห่ง และส่งไปถึง ชองเทอร์ ปอมปีดูปอมปิดู เซ็นเตอร์ในปารีส รวมถึงรอยเปีอนที่พื้นด้วย พวกเขาคงซื้อลูกค้าบางส่วนไปด้วยชํ้า มันเป็นร้านที่กว้างใหญ่ด้วยโต๊ะอาหารอย่างน้อยยี่สิบโต๊ะ และ
ถูกสร้างขึ้นในยุค 1960โดยใครบางคนที่รักพื้นฟอร์ไมกาลีแดงและท่อโลหะสีเหลือง มันเหมือนร้านอาหารของนักบินอวกาศ มีไฟเพดานเป็นระบบสุริยจักรวาล โต๊ะแบบติดตายที่ตั้งอยู่บนปีกจรวดทรงโค้ง
แต่มันก็ถูกใช้และทารุณโดยคนเดินดินธรรมดามาหลายรุ่นแล้วละ โต๊ะของเรามีหลุมที่เกิดจากรอยไหม้บุหรี่อยู่บนผิวโต๊ะที่พรุนเหมือนกับดาวอังคาร บนผนังมีโปสเตอร์โฆษณาของทนายความคนหนึ่ง เป็น
ชายผิวขาวอ้วนท้วนในเสือเชิ้ตแขนยาวและสายรัด ที่เรียกตัวเองว่าผู้เชี่ยวชาญอันดับหนึ่งด้านอุบัติเหตุเกี่ยวกับอุตสาหกรรม และสัญญาว่าจะจ่ายให้คุณหนึ่งหมื่นดอลลาร์ต่อการเสียแขนขาไปหนึ่งครั้ง
ด้านหลังเคาน์เตอร์เป็นตู้เย็นขนาดเท่าตัวคน มีสติ๊กเกอร์แบบที่เอาไว้ติดท้ายรถแปะอยู่ตรงประตู เขียนว่าถ้าคำตอบคือคลินตัน...มันคงเป็นค่าถามที่งี่เง่าน่าดูและเหนือช่องสำหรับเสิร์ฟอาหาร  ฉากถ่ายรูป
มีป้ายเขียนขนาดใหญ่ด้วยลายมือตัวพิมพ์ใหญ่ที่ดูเทอะทะว่า ห้ามกอร์ดอนเข้าร้านนี้มีลูกค้าอยู่ประมาณหนึ่งโหล ซึ่งน่าจะมืฟันรวมกันทั้งหมดลักร้อยชี่ ที่ผมรู้ก็เพราะเมื่อผมเดินเข้าไปก็ต้องประหลาดใจที่ทุกคนหันมามองและส่งยิ้มให้โน้นมาโต๊ะนี้ เพื่อจัดเรียงขวดเกลือและชามใส่ซองซอสมะเขือเทศอยู่วันนี้เป็นไงกันบ้าง เธอถาม เธอน่าจะอายุประมาณแค่สามสิบเองนะ แต่ฟันบนไม่เหลือเลย กอร์ดอนอาจจะต่อยเธอจนฟันหักละมั้งเราสั่งกาแฟ และเมื่อเธอเดินกลับมาพร้อมถ้วยร้อนๆ สามใบเราก็ถามถึงยูโทเปีย เธอส่ายหัวอย่างรู้สีกผิดห่างลงไปประมาณห้าไมล์จากถนนเส้นนี้ เธอขอความช่วยเหลือจากสาธารณชน มีครายรู้จักยูโทเปียบ้างเถียงกันเรื่องการจะไปถึงยูโทเปีย พวกเขาอภิปรายกันเรื่องเส้นทางที่เป็นถนนสายรองหลายเส้น และตัดทิ้งเส้นที่ชับช้อนออกไป จนกระทั่งเกิดมติมหาซนร่วมกันจนได้ว่าคนต่างถิ่นสามคนจะขับไปถึงยูโทเปีย กล่องไฟ LED
โดยไม่หลงทางได้อย่างไรเดินเข้ามาที่โต๊ะเพื่อถ่ายทอดการตัดสินใจของพวกเขา เขาแต่งตัวดูดีกว่าคนอื่นๆ เล็กน้อย และมีฟันเกือบจะครบทุกชี่เลยด้วย คงจะเป็นผีเมือทันตแพทย์ท้องถิ่นบริกรหญิงร่างเล็กใส่กระโปรงและถุงน่องสีดำกำลังย้ายจากโต๊ะฉันมะซ่ายคนแถวนี้ ฉันมะจากกราเมอซี เธอพูด เมืองนี้อยู่ทันใดนั้นทุกคนในร้านก็หยุดบทสนทนาของตัวเอง แล้วเริ่มถกชายร่างสูงคนหนึ่งสวมหมวกเบสบอลของบริษัทนํ้ามันแห่งหนึ่งคุณต้องการไปเยี่ยมชมที่สวนนั้นรึ เขาถามไม่ใช่คร้บ เจ้ตอบจะมีงานของเซกสเปียร์ที่นั่นการแสดงละครของเซกลเปียร์น่ะครับผมช่วยแปล
 คืนพรุ่งนี้เราจะไปช่วยจัดงานนี้เซกลเปียร์เหรอ ชายคนนั้นพูด ผมเห็นคิ้วขมวดมาจากทั่วทิ้งห้อง ความสงลัยเกิดขึ้นในทันใดว่าจะมีใครแถวนี้สนใจผู้ชายกลุ่มหนึ่งในชุดรัดรูปท่องบทกวีหรือเปล่านะ อย่างไรก็ตาม ผมคิดอย่างมีเหตุผลแล้วละว่า การขายตั๋วให้คนจำนวนมากไม่ใช่ปัญหาจริงๆ ของผมหรอก ผมสนใจแค่ผู้ทรงคุณวุฒิของท้องถิ่นที่จะลงคะแนนให้การแข่งขันเมืองท่องเที่ยวโลกเท่านันแหละคุณเป็นนักแสดงเรอะ สาวเสิร์ฟส่งคำถาม สีหน้าแห่งความประหลาดใจของเธอนั้นเหมือนกับว่าพวกเราเพิงจะเฉิดฉายมาจากฮอลลีวูดอย่างนั้นแหละ กล่องไฟฉากขาว
ไม่ใช่ครับ ผมปฏิเสธ พวกเราแค่ ใช่แล้วละ เจ้คพูด พอลเขาเป็นชาวสกอต เขาจะเล่นเรื่องแมคเบ็ธในชุดกระโปรงคิลต์กระโปรงคิลต์เหรอ โฆษกส่วนตัวของผมยืนยันให้ฟังอีกครั้งแล้วผมก็มองไปรอบๆ เพื่อจะหาอะไรมายัดปากเจ้คให้เขาหุบปากเก้าอี้ตรงบาร์ดีมั้ยใช่ครับ ผมมาจากสกอตแลนด์ ผมเก๊กเสียงห้าวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เอ้ คุณเป็นพวกเคจันใช่มั้ย สาวเสิร์ฟถามเจ้ค
คุณมีสำเนียงแปลกๆไม่ใช่ครับ แต่ผมพูดภาษาฝรั่งเศสได้ คุณล่ะเขาถามสาวเสิร์ฟไม่ได้ยินคำถามของเขาเพราะเธอกำลังตะโกนไปที่โต๊ะอื่นเอ้ มีเซลลล มานี่หน่อย ชายคนนี้พูดฝรั่งเศส
ชายผมสีเทาคนหนึ่งในเสื้อแจ็คเก็ตสกีสีดำและหมวกเบสบอลสีชมพูซีดที่น่าจะอยู่บนหัวของเขาทุกวันทุกคืนมาเป็นเวลาสี่สิบปี เดินโขยกเขยกมาที่โต๊ะของเรา และแนะน่าตัวเองด้วยส่าเนียงที่แปลก
ประหลาดเหมือนของเจ้คชายคนนั้นบอกว่าซื่อมิเซล และอาตัยอยู่ใน แกรี่วีลล เขาเป็นฟืชเซอแมน
ซาวประมง ที่เกษียณแล้ว และรู้สืก เฮปปี้มิความสุขที่ได้เจอใครสักคนที่ โทค ฟรนพูดฝรั่งเศส เขาบอกว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ได้พูดได้เองหรอก แต่พ่อแม่ของเขาพูดกัน  กล่องถ่ายรูปสินค้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น